เกณฑ์กาลโยค จุลศักราช 1383
เริ่มใช้ตั้งแต่วันที่ 16 เมษายน 2564
กาลโยค คือ กาลเวลาอันพึงมีตามกำหนด ประกอบด้วยคราวดี และ คราวร้าย ประกอบด้วยเกณฑ์ วัน / ยาม / ราศี / ดิถี / ฤกษ์ สำหรับเกณฑ์ต่างๆที่นำไปใช้จะอธิบายให้เกิดความเข้าใจง่ายดังนี้
เกณฑ์ธงชัยและอธิบดี ถือว่าเป็นเกณฑ์ที่ดี เหมาะแก่การทำการมงคล ส่วนเกณฑ์อุบาทว์และโลกวินาศ ถือว่าเป็นเกณฑ์ร้าย ไม่เหมาะกับการทำการมงคล
*เกณฑ์วัน คือ วันทั้ง 7 ในสัปดาห์ จะเปลี่ยนกาลโยคประจำปี 2564 ตั้งแต่วันที่ 16 เมษายน
วันอาทิตย์เป็นวันธงชัย คือ วันแห่งความสำเร็จและให้ผลดีมุ่งหวังชัยชนะ แคล้วคลาดจากสิ่งไม่ดี ใครทำอันตรายไม่ได้
วันจันทร์เป็นวันอธิบดี คือ ให้ผลในการปกครอง การควบคุมดูแล การดำเนินกิจกรรมเพื่อหวังความก้าวหน้า พิธีต่างๆที่เป็นมงคลให้เกิดความรุ่งเรือง
วันเสาร์เป็นวันอุบาทว์ คือ เป็นจุดของอุปสรรค ความร่วงโรย ไม่รุ่งเรือง โชคไม่ดี มีปัญหา ไม่เป็นสิ่งที่เป็นมงคล ควรหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมใดๆในวันเสาร์
วันพุธเป็นวันโลกาวินาศ คือ ความวุ่นวาย ให้ความหมายหายนะ ความสูญเสีย อุบัติเหตุ จุดอันตรายมีภัยต่อบุคคลและสถานที่ ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมมงคลในวันพุธ
เกณฑ์ยาม คือ การกำหนดยามอัฐกาลแต่โบราณ 1 วันมี 16 ยาม แบ่งเป็นภาคกลางวัน และ ภาคกลางคืน ภาคละ 8 ยาม ในแต่ละยาม 1 ชั่วโมง 30 นาที รวมทั้งสิ้น 24 ชั่วโมง
ภาคกลางวัน
ยามที่ 1 06.00 – 07.29 น.
ยามที่ 2 07.30 – 08.59 น.
ยามที่ 3 09.00 – 10.29 น.
ยามที่ 4 10.30 – 11.59 น.
ยามที่ 5 12.00 – 13.29 น.
ยามที่ 6 13.30 – 14.59 น.
ยามที่ 7 15.00 – 16.29 น.
ยามที่ 8 16.30 – 17.59 น.
ภาคกลางคืน
ยามที่ 1 18.00 – 19.29 น.
ยามที่ 2 19.30 – 20.59 น.
ยามที่ 3 21.00 – 22.29 น.
ยามที่ 4 22.30 – 23.59 น.
ยามที่ 5 00.00 – 01.29 น.
ยามที่ 6 01.30 – 02.59 น.
ยามที่ 7 03.00 – 04.29 น.
ยามที่ 8 04.30 – 05.59 น.
ยามธงชัย คือ ยามที่ 1 ตรงกับวันอาทิตย์ ภาคกลางวัน เวลา 06.00 – 07.29 น. ภาคกลางคืน เวลา 18.00 – 19.59 น.
ยามอธิบดี คือ ยามที่ 3 ตรงกับวันจันทร์ ภาคกลางวัน เวลา 09.00 – 10.29 น. ภาคกลางคืน เวลา 21.00 – 22.29 น.
การทำกิจกรรมใดๆ ในช่วงวันและเวลาดังกล่าว ถือว่าเป็นจุดที่ดีเป็นมงคล
ยามอุบาทว์ คือ ยามที่ 8 ตรงกับวันเสาร์ ภาคกลางวัน เวลา 16.30 – 17.59 น. ภาคกลางคืน เวลา 04.30 – 05.59 น.
ยามโลกาวินาศ คือ ยามที่ 7 ตรงกับวันพุธ ภาคกลางวัน เวลา 15.00 – 16.29 น. ภาคกลางคืน เวลา 03.00 – 04.29 น.
การทำกิจกรรมใดๆ ในช่วงวันและเวลาดังกล่าว ถือว่าเป็นจุดที่เสียไม่เป็นมงคล
เกณฑ์ดิถี หมายถึง ข้างขึ้นและข้างแรม อันเกิดจากการโคจรของดาวจันทร์สัมพันธ์กับดาวอาทิตย์ หรือ ลำดับทางจันทรคตินับจากวันจันทร์ดับ (วันอมาวสี) เรียงลำดับจากดิถี 1 ถึงดิถี 30 วันที่ดวงจันทร์ดับมืดอีกครั้งหนึ่ง ดังนั้นวันขึ้นดิถี 1 จึงตรงกับวันขึ้น 1 ค่ำ นับไล่ดิถีจนถึง 15 จะตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ ส่วนวันแรมจะเป็นดิถีมากกว่า 15 ก็ให้เอา 15 ลบผลลัพธ์จะเป็นวันข้างแรม
ดิถีธงชัย ตรงกับวันขึ้น 3 ค่ำ ของทุกเดือน แสดงผลดีในทางทรัพย์สิน ความเจริญรุ่งเรืองในการทำธุรกิจ หรือ กิจกรรมอันเป็นมงคลส่งผลดี หากเกณฑ์ดิถีไปขัดกับเกณฑ์วัน ให้ถือเกณฑ์วันเป็นหลัก คือ วันดีก็ถือว่าเป็นวันดีแต่ถ้าวันขึ้น 3 ค่ำ ไปตรงกับวันไม่ดี ก็ถือว่าไม่ดีไปด้วย
ดิถีอธิบดี ตรงกับวันแรม 12 ค่ำ ของทุกเดือน แสดงผลดีในการปกครอง ควบคุมดูแล อำนาจในการบริหาร การจัดการต่างๆ มีความก้าวหน้า มีความสำเร็จ เป็นมงคล
ดิถีอุบาทว์ ตรงกับวันขึ้น 2 ค่ำ ของทุกเดือน แสดงผลร้าย อุปสรรค เป้นวันที่ไม่เป็นมงคลควรหลีกเลี่ยง
ดิถีโลกาวินาศ ตรงกับวันขึ้น 13 ค่ำของทุกเดือน แสดงถึงผลร้าย ความหายนะ วันที่ไม่เป็นมงคล ห้ามทำการมงคลเช่นเดียวกัน
เกณฑ์ราศี ต้องทำความเข้าใจเรื่องจักรราศี ทั้ง 12 ราศี ในการวางฤกษ์จะไม่ให้ราศีที่เป็นวันธงชัย อธิบดี เป็นอริ มรณะ วินาศแก่ดวงฤกษ์ และให้ราศีที่เป็นอุบาทว์ โลกาวนาศไปอยู่อริ มรณะ วินาศแก่ลัคนาดวงฤกษ์ สำหรับเกณฑ์ราศีจะมีความซับซ้อน มีรายละเอียดมาก จึงจำเป็นต้องปรึกษานักโหราศาสตร์ ตลอดจนถึงผู้รู้จึงจะมีความเข้าใจ
เกณฑ์ฤกษ์ เป็นเรื่องของฤกษ์ที่มีความละเอียดสูง ต้องใช้คำอธิบายมาก ยากสำหรับผู้ที่ไม่มีพื้นฐาน ดังนั้นการวางฤกษ์หากจำเป็นต้องใช้ควรปรึกษานักโหราศาสตร์ที่มีความรู้ในการวางดวงฤกษ์
*สำหรับข้อมูลผมนำมาจากปฏิทินโหร 2564 สามารถไปหาซื้อมาใช้ประกอบการดูได้เป็นอย่างดีและมีข้อมูลที่เป็นประโยชน์อย่างมากแนะนำให้หาซื้อติดไว้สำหรับปีนี้ครับ
มรณะ หมายถึง 在 วัดสุวรรณประสิทธิ์ - มรณะ แปลว่า จุติ หรือ ดับ หรือ ตาย... 的推薦與評價
มรณะ แปลว่า จุติ หรือ ดับ หรือ ตาย จำแนกได้เป็น ๓ ประเภท คือ ๑. ขณิกมรณะ การดับของรูปนามตามนัยของอุปปาทะ ฐีติ ภังคะ ๒. สมมติมรณะ การดับ การตายของคน ของสัตว์ ... <看更多>